วิธีวัดขนาดเท้าเพื่อเช็กเบอร์ของรองเท้าวิบาก

ตามตัวอย่าง สมมุติวัดได้ 25.2 ควรเลือกเบอร์โตขึ้นนิดหน่อย จะไม่รัดเท้าแน่นเกินไป ดังนั้นควรเลือกเบอร์ 42

ขอขอบคุณhttps://www.lazada.co.th/products/tiger-i283590003-s516920591.html?spm=a2o4m.tm80167383.2074280300.1.685fCVFnCVFnHQ.685fCVFnCVFnHQ

ถอดล้างคาร์บูเรเตอร์

1. ถอดฝาปิดคาร์บูเรเตอร์ที่ยึดกับลูกเร่งพร้อมสายออกจากคาร์บูเรเตอร์…ถอดสายรัดยางกรองอากาศและสายรัดยาง ปากคาร์บูเรเตอร์ออก….แล้วดึงคาร์บูเรเตอร์ออกมา
2. ถอดน้อตยึดก้นอ่างออก………จะเห็นความสวยงามเอ้ย. .ความสกปรกที่ปรากฏในอ่างคาร์บูเรเตอร์

ถอดฝาก้นอ่างออก ฝานี้ไว้สำหรับถ่ายล้างสิ่งสกปรกออก แสดงว่าคาร์บูเรเตอร์อันนี้ไม่เคยดูแลถ่ายล้างเลย
ถอดชุดลูกลอยออก โดยดึงสลักบังคับลูกลอยและเข็มออก
เอาเข็มปิดเปิดน้ำมันออกมาจากเบ้า….จะสังเกตุว่าปลายเข็มมันจะคอดแล้ว ปกติมันต้องไม่คอด…ตรงนี้แหละหัวใจสำคัญ ถ้ามันคอดหรือสึกมันจะปิดน้ำมันไม่อยู่ เราจะ ต้องเปลี่ยนเข็มลูกลอยและเบ้าใหม่ ในกรณีที่มันสึกเหมือนในรูป ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนทั้งเข็มและเบ้า
ถอดตัวท่อส่งน้ำมัน(Main Jet)ออก น้ำมันจะถูกดูดจากรูตรงปลายท่อซึ่งปกติจะแหย่ไปเกือบถึงก้นอ่าง….ถ้าก้นอ่างสกปรกมันก็จะดูดขึ้นไปด้วยแล้วทำให้รูที่จะทำฝอยน้ำมันอุดตันและน้ำมันจะไม่เป็นฝอย จะเป็นหยดน้ำมันทำให้เกิดการเผาไหม้ไม่ดี…….. ..การที่น้ำมันดูดขึ้นจากตรงรูขึ้นไปได้เพราะว่าความเร็วของอากาศที่ไหลผ่านในจังหวะลูกสูบดูดจะเกิดสูญญากาศ ทำให้มันสามารถดูดน้ำมันขึ้นไปได้
ถอดเบ้าเข็มลูกลอยน้ำมัน……..ตัวนี้ถ้าเข็มสึกมาก ควรจะเปลี่ยนเบ้านี้ด้วย
ใช้ไขควงปากแบนตัวเล็กถอดเข็มปรับอากาศเดินเบาออก… …ถ้ารูมันตันจะทำให้ปรับเดินเบาไม่ได้เครื่องไม่นิ่ง
ถอดตัวปรับตั้งเดินเบาออก….ใช้สำหรับปรับรอบเครื่อง..ถ้าหมุนเข้าไปแกนมันก็จะยกลูกเร่งให้สูงขึ้นเครื่องจะเร่งขึ้น
ถอดตัวดึงโช้คออก….ใช้สำหรับโช้คน้ำมัน
หาน้ำมันเบนซินมาล้างอุปกรณ์ต่างๆ
หาสายสลิงที่เป็นสายเบรคหรือสายคลัชมาแยกออกเป็นเส้นเล็กๆตามขนาดของรูที่เราจะทำความสะอาด โดยเฉพาะรูของนมหนูเดินเบามันจะเล็กมาก ถ้าใช้อย่างอื่นมันจะใหญ่หรือไม่แข็งแรง
เมื่อล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีปั๊มลม ก็ใช้ลมเป่าอีกครั้งหนึ่ง แล้วประกอบชิ้นส่วนเข้าอย่างเดิม. …ก่อนปิดฝาก้นอ่างลองสังเกตุดูว่าลูกลอยขึ้นลงสะดวกไหม..เข็มดันขึ้นลงคล่องตัวไหม….ลองยกลูกลอยให้อยู่ในตำแหน่งดันเข็มน้ำมันปิดแล้วลองเป่าลมเข้าทางช่องน้ำมันเข้า ดูว่าเข็มลูกลอยสามารถกั้นลมไม่ให้เป่าได หรือไม่ แล้วลองปล่อยลูกลอยอยู่ในตำแหน่งลงลองเป่าดู ลมผ่านได้หรือไม่….ทดลองยกลูกลอยขึ้นลงสลับกันพร้อมเป่าลมเข้าทางที่ต่อสายน้ำมันเข้า เราก็จะรู้ว่าเข็มปิดดีหรือไม่……ทดลองจนแน่ใจถึงประกอบฝาก้นอ่างแล้วจึงประกอบไว้อย่างเดิม.

ขอบคุณhttps://www.thaiscooter.com/forums/showthread.php?t=368398&page=99

รวมเรื่องน่ารู้ : สเตอร์หน้า กับสเตอร์หลัง และโซ่ของ DT100,125

ผมเคยเจอเกิดจากสาเหตุที่ใช้สเตอร์หน้า กับสเตอร์หลังมีความแตกต่างกันมาก
ปกติที่เห็นใช้กันอยู่จะเป็น..
หน้า 14 หลัง 47 ผลก็คือไม่เน้นความเร็วแรงบิดเหลือเฟือแต่รถทำความเร็วได้น้อย….
ต่อมา หน้า 15 หลัง 47 เอาตัวเลขมาหารกันจะได้อัตราทดอยู่ที่ 3.13 : 1 แรงบิดตอนออกตัวก็ยังแรงอยู่แต่สามารถวิ่งได้เร็วปลายเพิ่มขึ้น……..
ต่อมา หน้า 16 หลัง 47 เวลาออกตัวถ้าคาบูเรเตอร์ไม่ดีจริงเครื่องไม่ฟิตหรือสมบูรณ์จริงๆเวลาออกตัวเครื่องจะมีอาการคล้ายบอดเพราะว่ามันทดเยอะไป เครื่องลากไม่ไหว พอเราบับคลัชเสียงเครื่องดีขึ้นเพราะมันไม่ได้ไปฉุดล้อพอปล่อยคลัชเครื่องมันไปดึงล้อหลังฉุดไม่ไหว……..

ดังนั้นปัญหาของคุณลองดูว่าตอนนี้สเตอร์หน้าใช้กี่ฟันหลังกี่ฟัน … ผมว่าให้อัตราทดอยู่ที่ประมาณ 3.13 : 1 กำลังดีครับ ผมลองคิดให้อย่างนี้นะครับ
หน้า 13 หลัง 40 หรือ 41
หน้า 14 หลัง 44
หน้า 15 หลัง 47
ลองดูรถของคุณนะครับว่าใกล้เคียงกับที่ผมไหม

สรุป สเตอร์หน้า 15 หลัง 47 ต้นก็ดี ปลายก็ไม่ขี้เหร่ครับ

ขอขอบคุณ..-ได้รับการอนุญาตนำมาเผยแพร่แล้ว จากท่าน อ.ศุภนันท์ รอดมีบุญ (ผู้เขียนบทความ)

△ขนาดโซ่มาตรฐาน ใช้เบอร์ 428 จำนวน 120 ข้อ

ระวัง!คันสตาร์ทdt100 ใส่ของ dt125 จะทำให้ฝาข้างด้านขวาตรงจุดที่แกนสตาร์ทแตกร้าว

วันนี้แนะนำการเลือกใช้คันสตาร์ทกับ dt100 นะครับเนื่องจากได้รื้อเครื่อง dt125 แบบโช้คคู่มา 3 เครื่องเจอปัญหาแบบเดียวกันหมดคือฝาข้างด้านขวาตรงจุดที่แกนสตาร์ทมีรอยแตกร้าว เจอแต่รอยอุดกาวซิเมนต์ก็เลยหาสาเหตุว่ามันเกิดจากอะไร?

…….ลองดูเครื่องที่ผมประกอบนะครับเอาคันสตาร์ทที่ติดมาจะเห็นว่าคันสตาร์ทรุ่นนี้มันใช้กับรุ่น dt125 mono แล้วเอามาใช้นะครับก้านมันจะยาว

เอามือกดลงสุดจะเห็นว่าหัวน็อตกระแทกกับฝา ถึงเอาน็อตออกเหลือตัวเดียวก็กระแทกครับ ยิ่งถ้าใช้เท้าถีบยิ่งก ระแทกจังๆครับ นี่ขนาดมีที่พักเท้าช่วยกันไว้นะครับ

นี่เป็นคันสตาร์ทอีกแบบครับยิ่งหนักกว่าเดิมอีก กดไปแค่ครึ่งเดียวก็โดนแล้ว

ดูคันสตาร์ทของ dt100 นะครับกดสุดยังไงก็ไม่โดนฝาครอบครับ(แต่อย่าใช้น็อตยาวเกินนะครับ….)

วันนี้ผมไปซื้อคันสตาร์ทของ dt100 ที่ราชบุรีมา 2 อันครับได้มาราคาอันละ 95 บาทร้านตรงติดกับโลตัสนะครับวันหลังคงต้องไปหามาเก็บตุนไว้อีกเพราะมีอีกหลายคันที่ต้องใช้..
ของคุณระวังนะครับตรวจเช็คให้ดีอย่าเป็นแบบที่ผมลงไว้นะครับเป็นห่วง…..ที่สำคัญที่วางเท้าหน้ามันเป็นตัวช่วยกันไม่ให้คันสตาร์ทเกินตำแหน่งที่เราเหยียบได้ ส่วนใหญ่จะเกิดจากปัญหาเปลี่ยนตำแหน่งที่พักเท้าด้านขวาด้วย….ฉนั้นถ้าเปลี่ยนตำแหน่งที่เหยียบพักเท้าด้านขวาให้คำนึงถึงคันสตาร์ทด้วยว่ามันจะช่วยกันคันสตาร์ทได้หรือไม่….

แนะนำแปลง cdi : ชุดแปลง ซีดีไอ เปลี่ยนทองขาวเป็นซีดีไอ WING, VESPA, FR 80 N, TS 125 N, C70, CG, JK 110, C700,C900,C70, DT 100 X

สินค้าเป็นอะไหล่ทดแทน จากโรงงานผลิตในไทย (LEK CDI)
ควรติดตั้งให้ถูกต้อง ไม่ควรติดตั้งหรือแปลงใส่รุ่นที่ไม่ตรงรุ่น
เช็ครหัสสินค้า ก่อนสั่งซื้อ

ข้อระวังไม่สามารถใช้กับคอยล์หัวเทียน(ระบบทองขาว) เดิมติดรถได้
ต้องใช้คอยล์หัวเทียนระบบซีดีไอ เช่น แดช หรือ โซนิค ที่นิยมใช้ก็ได้ค่ะ
ต้องใช้กับล้อแม่เหล็กเดิม
ไม่ควรลองเทสการจุดระเบิดกับตัวถังรถหรือลงโครงรถ เพราะจะทำให้กล่องซีดีไอช็อคและเสีย

-สินค้าต้องใช้ตรงตามรุ่น-
ชุดแปลงซีดีไอ DT 100 X
ชุดแปลงซีดีไอ RX 100
ชุดแปลงซีดีไอ Y 80 M
ชุดแปลงซีดีไอ FR 80 N
ชุดแปลงซีดีไอ TS 125 N, C (ใช้สำหรับรถรุ่นที่มี 2 คอยล์ คือ คอยล์สตาร์ทกับคอยล์แสงอย่างละหนึ่งเท่านั้น)
ชุดแปลงซีดีไอ VESPA (ไม่สามารถใช้กับรุ่นจานไฟเดิมที่มีสามคอยล์ได้ค่ะ)
ชุดแปลงซีดีไอ CG, JK 110
ชุดแปลงซีดีไอ C 70 ND (เก่าญี่ปุ่น)
ชุดแปลงซีดีไอ C 700, C 900 C 70
ชุดแปลงซีดีไอ WING

วิธีการถอดโช๊คอัพหน้า DT100

backawerวันนี้ผมเอาวิธีการถอดโช๊คมาฝากคับ

1.รูปโช๊คและเครื่องมือพิเศษ(เหล็กที่เป็นรูปตัว l แอล)

โช๊คบางกระบอกก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษคับ
เพราะสามารถถอดน๊อตใต้กระบอกโช๊คออกได้เลยเพราะลูกสูบไม่หมุนตาม

เครื่องมือพิเศษใช้ต่อเมื่อถอดน๊อตใต้การบอกโช๊คไม่ออก
เพราะน๊อตที่ยึดใต้กระบอกโช๊คนั้นยึดตึดกับลูกสูบโช๊คอยู่คับ
จะทำให้ลูกสูบหมุนตามนั้นคืองานเข้าเราแล้วนั้นเอง

ขั้นตอนการทำเครื่องมือพิเศษ

1.เครื่องมือพิเศษนั้นใช้เหล็กเส้นกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม.
ยาว 1.50 ม.
2.ใช้ตะไบเหล็กหรือใช้เครื่องเจียร์ แกนเหล็กด้านใดด้านหนึ่งก็ได้
โดยทำให้เป็นลิ่มสี่เหลี่ยมจัตุรัตขนาดปลาย 0.5*0.5 ซม.
ย้ำนะคับว่าเป็นลิ่มสี่เหลี่ยมจัตุรัตมันจะคล้ายพีระมิดตัดยอดทิ้งนะคับ
3.ดัดปลายเหล็กอีกด้านโดยวัดจากปลายมา 50ซม. ให้ได้ 90 องศา
__________________________________________________ __
การใช้เครื่องมือพิเศษ
ทำตามขั้นตอนที่ 3.ถอดน็อตปิดหัวโช๊คออกโดยใช้ประแจหกเหลี่ยมเบอร์ 14 mm.(หรือถ้าไม่มีใช้น๊อตตัวผู้เบอร์14แล้วใช้คีมล็อกจับ แล้วขันออกก็ได้คับ)และ 4.เมื่อขันน๊อตออกมาแล้วให้ดึงสปริงออกมาแล้วเทน้ำมันเก่าออกน้ำมันเดิมจะมีกลิ่นเหม็นหน่อยละคับ
เสียบปลายด้านลิ่มเขาไปในกระบอกโช๊คด้านบนให้ลงช่องลิ่มที่หัวลูกสูบ
เพื่อค้ำไม่ให้แกนลูกสูบหมุนตามแล้วค่อยถอดน๊อตใต้กระบอกโช๊คออก
__________________________________________________ __

ปริมาณน้ำมันเจอที่ผมเทออกมาจากโช๊คผมตวงดูแล้วครับได้50-70 มล.
น้ำมันที่ใช้เติมโช๊คจะมีปริมาณ 50 มิลลิลิตร ปกติแล้วจะมีขายตามร้านอะไหล่ทั่วไปคับ
แต่ถ้าบางท่านหาซื้อไม่ได้หรือประหยัดใช้น้ำมันAutolubeเติมแทนก็ได้คับไม่มีปัญหาในการใช้งาน
ปริมาณที่ใช้เติมโช๊คแต่ละข้างของผมใช้ 130 มิลลิลิตร คับ
(ข้อแนะนำ)
ไม่ควรเติมตามที่ผมแนะนำ เพราะการใช้รถของแต่ละบุคคลต้องการความนิ่มนวลไม่เหมือนกัน
ควรเติมข้างละ70 มล. ก่อนและทดลองขับรถดู
ถ้าโช๊คนิ่มหรือยุบตัวมากเกินไปก็เติมน้ำมันเพิ่มเข้าไปทีละ 5-10 มล. ทั้ง 2 ข้าง และทดลองใช้งานดู

2.ถอดน๊อตใต้กระบอกโช็คโดยใช้ประแจหกเหลี่ยมขนาด 8 มม.(รูปที่1และ3เป็นโช๊คซ้าย-รูปที่2เป็นโช๊คขวา)

3.ถอดน็อตปิดหัวโช๊คออกโดยใช้ประแจหกเหลี่ยมเบอร์ 14 mm.
(หรือถ้าไม่มีใช้น๊อตตัวผู้เบอร์14แล้วใช้คีมล็อกจับ แล้วขันออกก็ได้)
4.เมื่อขันน๊อตออกมาแล้วให้ดึงสปริงออกมาแล้วเทน้ำมันเก่าออก น้ำมันเดิมจะมีกลิ่นเหม็นหน่อยละครับ

5.ดึงกระบอกโช๊คบนออกจากกระบอกโช็คล่าง (ดังรูป)
เราจะเห็นลูกสูบโช๊คโผล่ออกมา
6.ดึงบูทอลูมิเนียมออกจากแกนลูกสูบและเทลูกสูบออกจากกระบอกโช๊คบน

7.งัดซีลที่อยู่ระหว่างกระบอกโช๊คบนและกระบอกโช๊คล่าง
แต่ต้องทำขั้นตอนที่5ไปแล้วนะคับ
(ในส่วนนี้จะมีแหวนสปริงรูป6เหลี่ยมล็อคอยู่ให้ใช้ไขควงงัดออกเบาๆ)

8.รูปชิ้นส่วนโช๊คที่ถอดแล้วและเครื่องมือพิเศษ(ขออภัยรูปไม่ชัด)

ขอขอบคุณhttps://www.thaiscooter.com/forums/showthread.php?t=368398&page=35